1 QR : 1 บาท
1QR : 1บาท
1QRทุเรียน-...1QRมังคุด = 1 บาทให้กับเมืองจันท์(ตัวแบบของ
CSR รูปแบบใหม่)
1บาทจาก
1
QR
จาก
Jetta
Premium Farm
ไม่ใช่เป็นการจ่ายภาษี แต่เป็นการจ่ายค่าแผ่นดิน
:
ค่าดิน-ค่าน้ำจืด-ค่าลม/ฝน-ค่าแสงแดด/แสงดาว
+
พืชพรรณ-สัตว์แมลง:
ระบบนิเวศอื่นๆ ณ หน้าเขาสระบาปซึ่งเป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่ทำให้บรรดาทุเรียน-มังคุด-ลองกอง-หลายๆสมุนไพร
-หลากหลายพืชพรรณได้เกิดมีขึ้นในตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่ง
Jetta
Premium Farm
ก็ได้เก็บเกี่ยวนำเอาผลไม้ซึ่งเป็นผลผลิตทางธรรมชาติมาสร้างเป็นต้นแบบสำหรับการดำรงชีพหารายได้เลี้ยงตัว
ทุเรียน 1
กล่อง(อาจจะมีทุเรียน 1-2 ลูกก็ได้) มังคุด 1 กล่อง(อาจมีมังคุดหลายลูกก็ได้)
ลองกอง 1 กล่องก็เช่นกัน
แต่ละกล่องหรือแต่ละลูกจะมี 1QR แต่ละ 1QR เมื่อขายเป็นเงินได้แล้วระบบโปรแกรม/Software
(ในการพัฒนาต่อไป)จะตัดไว้เป็นเงิน 1 บาท โดยตัดออกจากต้นทุน+กำไรของเจ้าของสวน Jetta Premium
Farm โดยมิได้เกี่ยวข้องกับระบบภาษีของทางราชการ
(ระบบภาษีของทางราชการ ได้แก่ ภาษีรายได้ ภาษีที่ดิน ภาษีการค้า ภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะยังคงเป็นไปตามระบบราชการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน)
1
บาทจาก
1
QR
จะถูกหักเข้าไปเป็นกองทุนและนำไปใช้ในการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาเกี่ยวกับ
:
ดิน-น้ำจืด-ลม/ฝน-แสงแดด/แสงดาว
+
พืชพรรณ-สัตว์แมลง:
ระบบนิเวศอื่นๆ ณ หน้าเขาสระบาปและในทุกพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรีเพื่อให้เกิดการหยั่งรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ทางธรรมชาติอย่างแท้จริง
และหาหนทางคิดค้นแสวงหาความรู้ให้เกิดเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์สำหรับใช้ในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตผลไม้:
ทุเรียน-มังคุด-ลองกองรูปแบบดั้งเดิมให้เป็นผลผลิตยุคใหม่ให้มีคุณค่าสูงสุดทั้งการเป็นอาหารชั้นเลิศ-อาหารเสริมชั้นเลิศ-ยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มีมูลค่าราคาแพงยิ่ง
เกษตรกรชาวจันท์กับระบบภาษีของทางราชการ
ภาษีที่ทางราชการเก็บจากเมืองจันท์ในแต่ละปีคิดเป็นตัวเลขมิใช่น้อยบนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมมูลค่าทั้งสิ้น
100
,
901 ล้านบาท(ปี63)
คิดเป็นอันดับที่
22 ของประเทศ
มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในจังหวัดต่อหัว 200
,
876 บาทต่อปี(ปี63)
ประชากรในจังหวัดมีรายได้เฉลี่ย
7
,
784 บาทต่อเดือน(ปี63)และมีรายจ่ายเฉลี่ย 6
,
655
บาทต่อเดือน(ปี63)ซึ่งก็เป็นตัวเลขรายได้ที่ไม่มากนักยังต้องพัฒนายกระดับขึ้นไปอีกมาก
งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ทางราชการจัดสรรให้กับจังหวัดจันทบุรีในแต่ละปีประมาณ
4
,xxx
ล้านบาท(เท่านั้น) เป็นงบรายจ่ายประจำ
2
,yyy
ล้านบาท
เป็นงบลงทุนประมาณ
2
,zzz
ล้านบาท
ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำมากสำหรับการพัฒนายกระดับให้จันทบุรีบรรลุเป้าหมายความเป็นมหานคร
:
มหานครผลไม้
มหานครอัญมณี
มหานครอาหาร
มหานครการท่องเทียว
มหานครกีฬาโลดโผน
มหานครซอฟต์แวร์
บนระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัยได้
ชาวจันท์หากยังคงรอราชการต่อไปก็คงจะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากไปกว่านี้เป็นการแน่นอน(สังเกตุได้นับแต่พระภิรมย์
พระจันทบุรีศรีสมุทร์เขตต์ หม่อมเจ้าศรีศุขนพมาศ นวรัตน
2459-2469
เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นต้นมาถึงปี
2563 คือท่านผู้ว่าสุธี ทองแย้มนั้นได้สื่อให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว)
ในการนี้
ชาวจันท์จำเป็นต้องมีงบประมาณสำหรับใช้จ่ายในการวิจัยพัฒนาซึ่งต้องเป็นเงินมาจากชาวจันท์เองผนวกเข้ากับต้องนำเอาองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของเมืองจันท์ไปสรรสร้างให้เกิดเป็นเทคโนโลยีประยุกต์ขึ้นมาสำหรับใช้ในระบบเกษตรกรรมของเมืองจันท์ด้วยปัญญาของชาวจันท์เอง
มิอาจหวังจากส่วนกลาง(ให้จัดสรรงบประมาณสำหรับการวิจัยหรือสร้างนวัตกรรมทางปัญญาใดๆเป็นการเฉพาะ)ได้
ทั้งนี้ เงินรายได้จาก
1
QR :
1บาท
น่าจะเป็นเงินทุนหลักสำหรับใช้จ่ายในการวิจัยได้เลยทีเดียวหากชาวจันท์ทั้งหมดร่วมกันสร้าง
QR
ผลไม้ขึ้นมากันทั้งจังหวัดและต่างยินดีเจียดจ่าย
1
QR :
1บาท
ให้เป็นกองทุนส่วนกลางสำหรับการวิจัยให้กับเมืองจันท์เพื่อผลประโยชน์ของชาวจันท์
1สวน 1ปี น่าจะได้ 1QR : 1
บาทได้นับจำนวนหมื่น
100-1,000-10,000-100,000….
สวน
ในระยะเวลา
10-20-30-40-50-60-70-80-90-100…
ปี
น่าจะได้
1QR : 1
บาทได้นับจำนวนเป็นหมื่นแสนล้านตัน