นักเลงทุเรียนไทยต้องรู้!!!

ก ระดับความแก่ของทุเรียน
- ปริมาณแป้งที่อยู่ในเนื้อของทุเรียน (แต่ละสายพันธุ์) บ่งบอกถึงระดับความแก่
- ปริมาณแป้งที่เป็นค่ามาตรฐานทุเรียนคุณภาพ ณ เวลาตัดลูกทุเรียนลงมาจากต้น ต้องถูกกำหนดเป็นค่ามาตรฐาน การกำกับมาตรฐานระดับความแก่อาจกำหนดเป็นร้อยละ% ของตัววัดความแก่อื่นที่ไม่ใช่ร้อยละ% ของปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนก็ได้
ทุเรียนหมอนทอง
-ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนหมอนทอง32% อาจเรียกว่าทุเรียนแก่เป็น75%
ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนหมอนทอง 37% อาจเรียกว่าทุเรียนแก่เป็น 86.7%
€ หมอนทอง สำหรับคนไทยกินในประเทศไทยสมควรต้องมีแป้งในเนื้อทุเรียน( ณ วันเวลาตัดลูกทุเรียนลงมาจากต้น) ปริมาณไม่น้อยกว่า 37% (ชาวไทยจึงจะได้กินกินทุเรียนคุณภาพ หาก%ต่ำกว่านี้ ถือว่าทุเรียนคุณภาพต่ำ)
€ หมอนทอง สำหรับส่งออกไปต่างประเทศสมควรต้องมีแป้งในเนื้อทุเรียน( ณ วันเวลาตัดผลทุเรียนลงมาจากต้น) ปริมาณไม่น้อยกว่า 32% (ชาวต่างชาติจึงเกือบไม่มีโอกาสกินทุเรียนคุณภาพ)
การวัดปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนในวิธีการเดียวที่ชนชาติไทยจนถึงปัจจุบันสามารถกระทำได้อย่างแม่นยำ(นับตั้งแต่คนไทยเริ่มรู้จักทุเรียนมานานกว่า 200ปี ก็คือ นำเนื้อทุเรียนที่ตัดลงมาจากต้นแล้วรีบนำเอาเนื้อทุเรียนมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นนำมาชั่งน้ำหนักให้ได้100กรัมแล้วรีบนำเข้าเตาอบโดยเร็วโดยอบให้แห้งภายในเวลา30นาทีจนกว่าเนื้อทุเรียนจะแห้งและจะไม่แห้งไปกว่านี้อีกแล้ว จากนั้นก็รีบทำการวัดน้ำหนักเนื้อทุเรียนแห้งที่ได้
น้ำหนักเนื้อทุเรียนแห้ง( xกรัม)ที่อบแห้งจากการอบ100กรัม คือ น้ำหนักแป้งสุทธิ % ที่มีในเนื้อทุเรียน ณ วันเวลาที่ทุเรียนถูกตัดลงมาจากต้น ซึ่งสื่อนัยสำคัญถึงรสชาติกับคุณค่าอาหารที่ได้เป็นอย่างยิ่ง ประการสำคัญยิ่งสำหรับการดำเนินธุรกิจการค้าขายทุเรียน
มันถูกใช้เป็นมาตรฐานกำกับการตัดทุเรียนคุณภาพลงจากต้น
มันมีความสำคัญยิ่งสำหรับการเป็นชาวสวนคุณภาพ
มันสำคัญยิ่งสำหรับความเป็นมือตัดทุเรียนมืออาชีพ
ปริมาณแป้ง%ในเนื้อของทุเรียนแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีมาตรฐานกำกับตามคุณลักษณะเฉพาะของมันบนรสชาติที่เป็นเลิศกับคุณค่าอาหารที่วิเศษสุดยอดของมัน
ทุเรียนห่าม
ทุเรียนสุก
ก. ทุเรียนห่าม เป็นได้ 2 กรณี คือ
1 ห่ามคาต้น อาจมีแป้งในเนื้อได้ถึง 40%-45% ก็ได้ ก็คือใกล้เวลาสุกคาต้น
2 ห่ามบนการบ่มทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นที่ระดับความแก่ต่างๆตามปริมาณแป้ง % ในเนื้อทุเรียน ซึ่งห่ามลักษณะนี้เรียกว่าห่ามจากการบ่ม เช่น
2.1 หมอนทองห่ามที่ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนเพียง32% การบ่มให้ห่ามจะใช้เวลานาน เป็นทุเรียนหมอนทองห่ามที่มีรสชาติกับคุณอาหารเป็นอย่างหนึ่ง กินได้
2.2 หมอนทองห่ามที่ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียน 37+% การบ่มให้ห่ามจะใช้เวลาค่อนข้างนาน เป็นทุเรียนหมอนทองห่ามที่มีรสชาติกับคุณอาหารเป็นอีกอย่างหนึ่ง
หมอนทองห่ามที่ปริมาณแป้ง%สูงจะอร่อยกว่าที่มีปริมาณแป้ง%ต่ำเป็นที่แน่นอน!!!
ข ทุเรียนสุก ก็เป็นได้ 2 กรณีเช่นกัน คือ
1 สุกคาต้น อาจมีแป้งในเนื้อได้ถึง 40%-43% ก็ได้ ก็คือ สุกคาต้นหลุดปลิงหล่นเองลงมา
2 สุกบนการบ่มทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นที่ระดับความแก่ต่างๆตามปริมาณแป้ง%ในเนื้อทุเรียน ซึ่งสุกลักษณะนี้เรียกว่าสุกจากการบ่ม เช่น
2.1 หมอนทองสุกที่ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนเพียง 32% ก็จะใช้เวลาอาจจะนานมากกว่าจะสุก รสชาติกับคุณอาหารจะเป็นอย่างหนึ่ง
2.2 หมอนทองสุกที่ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียน 37+% บ่มใช้เวลาไม่นาน รสชาติกับคุณอาหารก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง กินอร่อย
หมอนทองสุกที่ปริมาณแป้ง%สูงจะอร่อยกว่าเป็นที่แน่นอน!!! คนไทยควรกินทุเรียนสุก
การวัดค่าความห่าม
การวัดค่าความสุก
€ ค่าความห่ามของทุเรียน คือ ผลการวัดอัตราการเปลี่ยนแป้ง(+แร่ธาตุนานาชนิด)ในเนื้อทุเรียนที่เป็นวีธีการทางธรรมชาติให้กลายไปเป็นน้ำตาลกับเป็นสารวิเศษ(ซึ่งยังไม่รู้ว่ามันทั้งหมดคืออะไร : อนุมูล)
อะไร ??? สมควรจะถูกใช้เป็นเครื่องมือวัดค่าความห่ามของทุเรียน(วัดปริมาณน้ำตาล-วัดปริมาณสารวิเศษเกิดจากวิธีการทางธรรมชาติ)ซึ่งได้มาจากการเปลี่ยนแป้ง(+แร่ธาตุ)ให้มนุษย์เราสามารถพิสูจน์ทราบการเปลี่ยนของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด/แม่นยำสูงสุด
มนุษย์(คนไทยเจ้าของทุเรียนไทย)ต้องเป็นผู้คิดค้นวิจัยทดลองทดสอบผลิตสร้างรับรองการใช้งานมันขึ้นมา
€ วัดค่าความสุกของทุเรียนก็เช่นกัน วิธีการวัดความสุกคงไม่ต่างจากการวัดค่าความห่าม
ความยาก
_การวัดค่าต่างๆ ต้องพิจารณาดังนี้
1 วัดค่าความห่ามหากทุเรียนที่ยังไม่ถึงสุกคาต้นหรือใกล้เวลาสุกคาต้น
2 วัดค่าความห่ามของทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นขณะที่ทุเรียนมีปริมาณแป้งในเนื้อเพียง 32%
3 วัดค่าความห่ามของทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นขณะที่ทุเรียนมีปริมาณแป้งในเนื้อ37+%
4 วัดค่าความสุกของทุเรียนสุกคาต้น (ใช้อ้างอิงค่ามาตรฐานได้)
5 วัดค่าความสุกของทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นขณะที่ทุเรียนมีปริมาณแป้งในเนื้อ 32%
6 วัดค่าความสุกของทุเรียนที่ถูกตัดลงมาจากต้นขณะที่ทุเรียนมีปริมาณแป้งในเนื้อ37%
เครื่องวัดที่ดีที่สุด
_ ตา-จมูก-หู-มือ-ลิ้นของมนุษย์
ตา ดูลูกทุเรียน: งวง ปลิง ผิว พู หนาม + สีลูกทุเรียน
จมูก ดมกลิ่น
หู ฟังเสียงเคาะ
มือ ยกดูน้ำหนักเบา
ลิ้น ละเลียดรสชาติ
_ เครื่องวัดใดๆ ก็วัดค่าความห่ามกับวัดค่าความสุกของทุเรียนไม่ได้ดีเท่าประสสัมผัสของมนุษย์
คนไทยกับทุเรียน
_ คนไทยต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งให้มากที่สุดเกี่ยวกับธรรมชาติของทุเรียนที่มันเป็นผลผลิตชั้นเลิศทางธรรมชาติของประเทศไทย
แม้ว่ามันจะยากยิ่งที่คนไทยจะมีความรู้ให้ฉลาดกว่าวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติของทุเรียนก็ตาม
_ คนไทยต้องเรียนรู้เรื่องราวของการกินทุเรียน
รู้วิธีการวัดปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียน
รู้วิธีการพิสูจน์ทราบทุเรียนห่าม
รู้วิธีการพิสูจน์ทราบทุเรียนสุก
หากรู้แล้วเราคนไทยก็จะสามารถกินทุเรียนไทยที่เป็นผลผลิตชั้นเลิศทางธรรมชาติที่มันเกิดมีอยู่บนผืนแผ่นดินไทยตามความชอบ : ดิบ ห่าม สุก ได้อย่างมีความสุข